💡💡วันนี้จะมาแนะนำการดูพิจารณาลู่วิ่งแบบง่ายๆไม่ให้โดนหลอกนะครับ 💡💡
1. มอเตอร์ของลู่วิ่ง —-> ควรดูมอเตอร์จริง ไม่ใช่ กำลังมอเตอร์สูงสุดครับ
มอเตอร์ จะบอกกำลัง 2 ประเภทนะครับ
✅ กำลังมอเตอร์ต่อเนื่อง (continuous motor) คือกำลังที่มอเตอร์สามารถวิ่งต่อเนื่องโดยไม่ทำงานหนักจนเกินไปอันนี้ถือว่าเป็นกำลังที่แท้จริง
✅ กำลังมอเตอร์สูงสุด (Peak motor) คือกำลังมอเตอร์สูงสุดที่ทำได้ ไม่ควรเร่งมอเตอร์ให้ถึงจุดนี้นานเกินไปเพราะมอเตอร์จะพังได้
ข้อความข้างล่างแสดงถึงการเปรียบเทียบระหว่าง
✔️ ความเร็วสูงสุด
✔️ กำลังมอเตอร์แบบต่อเนื่อง
ซึ่งทั้ง 2 รายการต้องสัมพันธ์กัน
⚡️ความเร็วสูงสุด 12-14 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มอเตอร์ 1-1.5 แรง
⚡️ความเร็วสูงสุด 16-18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มอเตอร์ 1.5-2 แรง
⚡️ความเร็วสูงสุด 20-22 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มอเตอร์ 2.5-3 แรง
❗️ตัวอย่าง❗️
🔔 บริษัท ก. บอกขนาดมอเตอร์ลู่วิ่ง 3 แรงม้า แต่ความเร็วปรับได้สูงสุดปรับได้ 14 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
⁉️หากดูจากข้อความด้านบน ⁉️
ถ้ามอเตอร์ขนาด 3 แรง ความเร็วต้องไปถึง 20-22 กม./ ชม. แต่หากวิ่งได้แค่ 14 กม. / ชม. มอเตอร์ลู่วิ่งจะประมาณ 1.5 แรงม้า
แสดงว่า
❌บริษัท ก. โกหกกำลังมอเตอร์
❌หรือบอกกำลังมอเตอร์สูงสุดที่เราไม่สามารถใช้ได้เพราะถ้าใช้บ่อยๆมอเตอร์จะพังนะครับ
⚡️เรื่องการกินไฟก็มีผลนะครับ ⚡️
กำลังมอเตอร์ลู่วิ่ง 3 แรง กินไฟ 2.25 หน่วยต่อชั่วโมง (ประมาณ 11 บาท)
ถ้าเราใช้กำลังมอเตอร์ 3 แรง แต่ปรับได้เท่ากับกำลังมอเตอร์ 1.5 แรง เราจะยอมสิ้นเปลืองไฟฟ้าเกิน 2 เท่าตัวทำไม (จริงๆ 3 แรงที่บอกคือกำลังสูงสุดครับ )
2. โครงสร้างของลู่วิ่งครับ
ถ้ากำลังมอเตอร์ต่อเนื่อง 3 แรงจริง
✅โครงสร้างไม่ควรต่ำกว่า 90 โล
✅ หน้ากว้างสายพานส่วนใหญ่จะ 50 ซม ขึ้นไป
❗️ตัวอย่าง ❗️
✔️ลู่วิ่งของทางร้าน มอเตอร์ 2 แรงม้า หน้ากว้างสายพาน 48 เซนติเมตร น้ำหนักเครื่อง 87 กิโล ความเร็วสูงสุด 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
❌ แต่บางบริษัท มอเตอร์ 3 แรงม้า แต่สายพานกว้างแค่ 43-44 เซนติเมตร น้ำหนักเครื่อง 50-60 กิโล ความเร็วสูงสุดปรับได้ 14 กิโลเมตรต่อชั่วโมง